ความสัมพัทธ์ของเวลาในอัลกุรอาน

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลและยุคสมัย ซึ่งมุมมองของเขาเกี่ยวกับพระเจ้ามักผันผวนระหว่างการเชื่อในพระเจ้าและการเป็นอไญยนิยม แต่เขาได้ทำประโยชน์ใหญ่หลวงต่อโลกฟิสิกส์ และที่น่าสนใจคือ จนถึงปัจจุบัน ทฤษฎีของเขายังไม่ถูกหักล้างเลย แม้ในช่วงเวลาหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์ปฏิเสธทฤษฎีคลื่นความโน้มถ่วงของเขา แต่การค้นพบใหม่ๆ ได้พิสูจน์ทฤษฎีคลื่นความโน้มถ่วงของไอน์สไตน์

หนึ่งในทฤษฎีที่เป็นที่ถกเถียงมากที่สุดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ คือทฤษฎีสัมพัทธภาพ ซึ่งเขาเสนอในปี ค.ศ. 1915 และทฤษฎีของเขาบ่งชี้ถึงความสัมพัทธ์ของเวลา และระบุว่าด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น เวลาจะผ่านไปช้าลง แม้ในตัวอย่างที่โด่งดัง ได้ระบุว่าพี่น้องฝาแฝดสองคน คนหนึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงในอวกาศ และอีกคนหนึ่งอยู่บนโลก หลังจากหลายปี พี่น้องที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงในอวกาศกลับมายังโลกและยังคงอยู่ในวัยเด็กของตน แต่พี่น้องอีกคนหนึ่งได้เข้าสู่วัยชราและมีลูกและหลาน ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์เน้นย้ำถึงการขยายตัวของอวกาศและเวลา จุดที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ ไอน์สไตน์ในเวลานั้น ซึ่งกล้องโทรทรรศน์ยังไม่ได้ค้นพบการมีอยู่ของหลุมดำโดยตรงและยังไม่มีภาพของหลุมดำ ได้ใช้การคำนวณที่เกี่ยวข้องกับสัมพัทธภาพเพื่อค้นพบการมีอยู่ของหลุมดำ

การคำนวณและการสังเกตการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ยังแสดงให้เห็นในพื้นที่เช่นรอบหลุมดำหรือดาวนิวตรอนที่มีแรงโน้มถ่วงเข้มข้นและมิติของอวกาศและเวลาบิดเบี้ยว เวลาจะผ่านไปช้าลง จุดที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ การชะลอตัวของเวลาด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นของวัตถุ ดังที่กล่าวในทฤษฎีสัมพัทธภาพ สามารถเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเดินทางอวกาศในอนาคต โดยพิจารณาจากมิติและระยะทางขนาดใหญ่ของอวกาศ

ในโองการที่ 4 ซูเราะห์อัล-มะอาริจ เขียนว่า

เทวดาและวิญญาณ (ญิบรีล) จะขึ้นไปหาพระองค์ ในวันที่ช่วงเวลาของมันคือห้าหมื่นปี (4)

ตอนนี้ให้เราอ้างอิงถึงโองการถัดไปของซูเราะห์มุบาร็อกอัล-มะอาริจ

ดังนั้นจงอดทนด้วยความอดทนที่ดี (5) แท้จริง พวกเขามองว่ามัน (การลงโทษ) อยู่ไกล (6) แต่เราเห็นมัน (ค่อนข้าง) ใกล้ (7)

จุดที่สวยงามมากจุดแรกที่ซ่อนอยู่ในโองการคือการอ้างอิงถึงวันที่จำนวนเท่ากับห้าหมื่นปีบนโลก และจุดที่สวยงามยิ่งกว่านั้นอยู่ในโองการที่หกและเจ็ด คือความแตกต่างในมุมมองของเทวดาและพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพต่อเวลาของการลงโทษ เพราะเทวดาก็มีมิติของเวลาเช่นกันและเห็นวันนั้นไกลมาก แต่พระผู้สร้างจักรวาลที่สวยงามซึ่งอยู่นอกมิติของเวลาและสถานที่และสำหรับพระองค์ไม่มีเวลาและมีอยู่ในทุกยุคสมัยและเวลา ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบันหรืออนาคต มองเห็นวันนั้นใกล้มาก

ในโองการที่ 47 ของซูเราะห์อัล-ฮัจญ์ ยังกล่าวถึงประเด็นความสัมพัทธ์ของเวลาด้วย

และพวกเขาขอให้คุณเร่งรัดการลงโทษ! และอัลลอฮ์จะไม่ล้มเหลวในสัญญาของพระองค์ และแท้จริง วันหนึ่งกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าเป็นเหมือนพันปีที่เจ้านับ

จุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งในนี้ นอกจากประเด็นความสัมพัทธ์ที่กล่าวในโองการคือวันที่เท่ากับหนึ่งพันปีบนโลก ตอนนี้โองการนี้สามารถแก้ไขข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างในหกวัน ซึ่งเราจะกล่าวถึงในเรื่องแยกต่างหาก

ในซูเราะห์อัส-ซัจดะห์ โองการที่ 4 และ 5 เขียนว่า

อัลลอฮ์คือพระองค์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองในหกวัน แล้วพระองค์ทรงสถิตย์เหนือบัลลังก์ (ในลักษณะที่เหมาะสมกับพระองค์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์) เจ้า (มนุษยชาติ) ไม่มีใครนอกจากพระองค์ เป็นวาลี (ผู้คุ้มครองหรือผู้ช่วยเหลือ ฯลฯ) หรือผู้วิงวอน เจ้าจะไม่จำ (หรือถูกตักเตือน) ใช่หรือไม่? (4) พระองค์ทรงจัดการ (ทุก) กิจการจากชั้นฟ้าสู่แผ่นดิน แล้วมัน (กิจการ) จะขึ้นไปหาพระองค์ ในวันหนึ่ง ซึ่งพื้นที่ของมันคือพันปีของการนับของคุณ (นั่นคือ การนับเวลาโลกปัจจุบันของเรา) (5)

แต่นี้เป็นเพียงมิติเดียวของเรื่อง ช่วงการหมุนของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ยังกำหนดจำนวนปีของพวกมันด้วย เช่น หนึ่งปีของดาวพุธซึ่งใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าเท่ากับ 88 วัน หนึ่งปีของดาวศุกร์ 224 วัน หนึ่งปีของดาวอังคารซึ่งห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าโลกเท่ากับ 687 วันบนโลก แม้ตัวอย่างที่โด่งดังในภาพยนตร์อินเตอร์สเตลลาร์ หนึ่งปีบนดาวเคราะห์สมมติในภาพยนตร์อินเตอร์สเตลลาร์เท่ากับเจ็ดปีบนโลก ซึ่งนำมาจากทฤษฎีเหล่านี้